ไม่รวมการนำทางในส่วนย่อย การนำทางในสถานะแบบพุชของประวัติการเข้าชมและชุดรูปแบบทั้งหมดที่ไม่ใช่ HTTP/HTTPS (รวมถึงการนำทางในหน้าแท็บใหม่)
HTTPS ช่วยให้คุณท่องเว็บได้อย่างปลอดภัยด้วยการทำให้การเชื่อมต่อเบราว์เซอร์หรือแอปกับเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมมีความปลอดภัย ทั้งนี้ HTTPS พึ่งพาเทคโนโลยีการเข้ารหัส ไม่ว่าจะเป็น SSL หรือ TLS เพื่อทำให้การเชื่อมต่อดังกล่าวปลอดภัย รายงานนี้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการนำ HTTPS มาใช้และการใช้งานทั่วทั้งเว็บ
การเชื่อมต่อเว็บ HTTPS เหล่านี้ช่วยป้องกันนักสอดแนม การโจมตีด้วยการแทรกกลางการสื่อสาร และผู้ลักลอบใช้บัญชีที่พยายามลอกเลียนแบบเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การเข้ารหัสลับช่วยขัดขวางการดักจับข้อมูลและช่วยรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูลที่คุณส่งและรับ และเนื่องจากฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์รุ่นเก่าๆ มักจะไม่รองรับเทคโนโลยีการเข้ารหัสลับสมัยใหม่ ผู้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวจึงอาจเสี่ยงต่อภัยคุกคามด้านความปลอดภัยมากกว่า
ความท้าทายด้านเทคนิคและการเมืองเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายในการเข้ารหัสโดยสมบูรณ์สำหรับการค้นเว็บทั้งหมด ตัวอย่างเช่น บางประเทศ/ภูมิภาคและบางองค์กรบล็อกหรือลดระดับการค้นหาผ่าน HTTPS บางบริษัทและบางองค์กรขาดทรัพยากรทางเทคนิคในการติดตั้งใช้งาน HTTPS หรือไม่เห็นว่ามีความสำคัญ สำหรับที่ Google การจัดการใบรับรองอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Blogger ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้โดเมนที่ไม่ได้เป็นของ Google และโดเมนดังกล่าวอาจไม่รองรับ HTTPS
อุปกรณ์และระบบปฏิบัติการรุ่นเก่าบางรุ่นไม่รองรับการเข้ารหัส มาตรฐาน หรือโปรโตคอลสมัยใหม่ และอาจไม่รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์อีกต่อไปด้วย ส่งผลให้ไม่รองรับการเข้ารหัสตลอดไป
การเชื่อมต่อเว็บ HTTPS เหล่านี้ช่วยป้องกันนักสอดแนม การโจมตีด้วยการแทรกกลางการสื่อสาร และผู้ลักลอบใช้บัญชีที่พยายามลอกเลียนแบบเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การเข้ารหัสลับช่วยขัดขวางการดักจับข้อมูลและช่วยรักษาความสมบูรณ์ของข้อมูลที่คุณส่งและรับ และเนื่องจากฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์รุ่นเก่าๆ มักจะไม่รองรับเทคโนโลยีการเข้ารหัสลับสมัยใหม่ ผู้ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวจึงอาจเสี่ยงต่อภัยคุกคามด้านความปลอดภัยมากกว่า
ความท้าทายด้านเทคนิคและการเมืองเป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายในการเข้ารหัสโดยสมบูรณ์สำหรับการค้นเว็บทั้งหมด ตัวอย่างเช่น บางประเทศ/ภูมิภาคและบางองค์กรบล็อกหรือลดระดับการค้นหาผ่าน HTTPS บางบริษัทและบางองค์กรขาดทรัพยากรทางเทคนิคในการติดตั้งใช้งาน HTTPS หรือไม่เห็นว่ามีความสำคัญ สำหรับที่ Google การจัดการใบรับรองอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Blogger ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้โดเมนที่ไม่ได้เป็นของ Google และโดเมนดังกล่าวอาจไม่รองรับ HTTPS
ตั้งแต่ต้นปี 2015 เราได้วัดความแพร่หลายของการเชื่อมต่อ HTTPS ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้ใช้ Chrome ที่เลือกแชร์สถิติการใช้งานกับเรา กราฟด้านล่างแสดงการเติบโตของการใช้งาน HTTPS ในทุกแพลตฟอร์มและทุกประเทศ/ภูมิภาค ผู้ใช้เดสก์ท็อปโหลดหน้าเว็บที่ตนเข้าชมมากกว่าครึ่งหนึ่งผ่าน HTTPS และใช้เวลา 2 ใน 3 ของการท่องเว็บในหน้า HTTPS ถึงแม้ HTTPS จะมีความแพร่หลายน้อยกว่าในเว็บไซต์ที่เข้าถึงผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ แต่การใช้การเข้ารหัสก็ยังคงมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น
ไม่รวมการนำทางในส่วนย่อย การนำทางในสถานะแบบพุชของประวัติการเข้าชมและชุดรูปแบบทั้งหมดที่ไม่ใช่ HTTP/HTTPS (รวมถึงการนำทางในหน้าแท็บใหม่)
หากผู้ใช้เปิดแท็บไว้ใน Chrome หลายแท็บ เมตริกจะมาจากแท็บส่วนหน้าที่มีการใช้งานเท่านั้น และไม่รวมชุดรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่ HTTP หรือ HTTPS (เช่น chrome://)
การใช้ HTTPS ใน Chrome เพิ่มขึ้นเร็วกว่าในบางประเทศ/ภูมิภาค ตัวอย่างเช่น ความแพร่หลายของ HTTPS เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในรัสเซียเมื่อเทียบกับญี่ปุ่นซึ่งมีการใช้ HTTPS เพิ่มขึ้นช้ากว่า
ดูข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่เราเลือกประเทศ/ภูมิภาคเหล่านี้ arrow_forward
ไม่รวมการนำทางในส่วนย่อย การนำทางในสถานะแบบพุชของประวัติการเข้าชมและชุดรูปแบบทั้งหมดที่ไม่ใช่ HTTP/HTTPS (รวมถึงการนำทางในหน้าแท็บใหม่)
หากผู้ใช้เปิดแท็บไว้ใน Chrome หลายแท็บ เมตริกจะมาจากแท็บส่วนหน้าที่มีการใช้งานเท่านั้น และไม่รวมชุดรูปแบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่ HTTP หรือ HTTPS (เช่น chrome://)
ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2024 เป็นต้นมา เราได้เก็บแผนภูมิที่ครอบคลุมปริมาณการค้นหาและคำขอที่เข้ารหัสในผลิตภัณฑ์ของ Google แล้ว
HTTPS ทำให้ผู้อื่นในเครือข่าย เช่น ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ ไม่สามารถลักลอบเข้ามาดูหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาที่คุณดูออนไลน์ได้
หากคุณเป็นเจ้าของไซต์ ก็ควรเรียนรู้วิธีเปิดใช้ HTTPS เพื่อปกป้องผู้เข้าชม arrow_forward